๕. พระบิดาแห่งกฎหมายไทย ; เมื่อเยาว์วัยที่อังกฤษ
" ศาลฎีกา : อัฏฏวิจารณ์จดหมายเหตุ " ............โดย นิกร ทัสสโร.........
ที่หน้าอาคารศาลยุติธรรมในพื้นที่ของศาลฎีกานั้น. มีการประดิษฐานอนุสาวรีย์พระรูปของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงเปิดพระรูปนี้ เมื่อที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๐๗. ต่อมาในปี ๒๕๔๙ ผมได้เขียนพระประวัติของเสด็จในกรมหลวงราชบุรีไว้ เป็นภาคที่หนึ่ง ซึ่งสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คได้จัดพิมพ์จำหน่าย โดยมอบค่าลิขสิทธิ์ถวายให้แก่ " รพีบุญนิธิ " ...แม้หนังสือเล่มนี้จะได้รับการประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นหนังสือสารคดี ดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๐ และผมได้รับรางวัลพระราชทานแล้วก็ตาม แต่ยังมีเรื่องที่ผมติดใจจะสืบค้นต่ออยู่อีก ๒ เรื่อง คือ ๑. ผมต้องการทราบว่าขณะที่พระองค์มีพระชันษา เพียง ๑๑ ปีและทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้น ชีวิต และ การศึกษา ของพระองค์ เป็นอย่างไร ๒. ในช่วงท้ายแห่งพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลใดในกรุงปารีส ...สองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมติดใจ ติดใจมากในระดับข้าวเหนียวไก่หาย...คือ.ติดใจอยากรู้.เสียจริงๆ..นิว่าเรื่องเป็นพรรค์พรื้อ? ++ แต่วันนี้. ผมสืบค้นพบเรื่องหนึ่งแล้ว...ผมขอเล่าให้ฟังนะครับ...
๑. การเสด็จไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษนั้น เสด็จในกรมหลวงราชบุรีเสด็จถึงสถานทูตสยามที่กรุงปารีส เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๙ สิงหาคม ๒๔๒๘. พระองค์และพระเจ้าพี่พระเจ้าน้องรวมสี่พระองค์ประทับที่สถานทูตแห่งนั้น ๕ วัน ระหว่างที่อยู่ปารีส พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ราชทูตถวายการต้อนรับ และ " ถ่ายรูปกรุปพร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอทั้งสี่พระองค์" หลังจากนั้นเสด็จในกรมหลวงราชบุรีและพระเจ้าลูกยาเธอได้เสด็จไปกรุงลอนดอน. "เสด็จต่อไปถึงกรุงลอนดอนโดยเรียบร้อย" เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๔๒๘ ที่กรุงลอนดอนพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสี่พระองค์ประทับที่ " The Siamse Lecation 23 Ashburn Place London . S.W "
ในระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๔๒๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระเจ้าลูกยาเธอ ถี่มาก ถึงสามครั้ง เรียกว่าเดือนละครั้ง. ส่วนพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสี่ การที่ได้เสด็จไปทรงศึกษาที่ต่างประเทศดังกล่าว ก็ประดุจว่าได้ทรงเห็นโลกกว้าง เพราะได้ทอดพระเนตรความเจริญทุกด้านของกรุงลอนดอน. แต่ด้วยความที่ยังทรงพระเยาว์อยู่มาก หลายคราวจึงทรงพระกรรแสง ดังความในหนังสือของเจ้าพระยายมราชที่มีมากราบทูลสมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงษ์วโรปการ องค์เสนาบดีกรมท่า ที่ว่า
" ...๒๗ NOVEMBER ๑๘๘๕ ...วัน ๔ ฯ (๘) ๑๐ ค่ำ ท่านราชทูตพาพระเจ้าลูกเธอไปทอดพระเนตรโรงเอศบิเชน ข้าพระพุทธเจ้ากับนายรองทรงตามเสด็จ ...วัน ๖ ฯ (๑๐) ๑๒ ค่ำ พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิทรงอักษรเมล์ ๔ ฉบับ กราบบังคมทูลพระกรุณาฉบับ ๑ ถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจาริย์ ฉบับ ๑ ถวายพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชรญาณวโรรส ฉบับ ๑ ถึงคุณจอมมารดา ฉบับ ๑ ....
ณ วัน ๒ ฯ (๑๓) ๑๐ ค่ำ พระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ได้รับพระราชทานพระราชหัตถเลขา ครั้งที่ ๓ องค์ละฉบับ กับหนังสือคุณจอมมารดาองค์ละฉบับ เมื่อพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิทรงอ่านอยู่น้ัน ได้ทรงทราบว่า คุณขรัวยายถึงแก่กรรม ก็ทรงพระกรรแสง....
ณ วัน ๒ ฯ (๕) ๑๐ ค่ำ ท่านราชทูตภาพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ไปส่งสกูล นายเปลี่ยนกัปตันตามเสด็จไปด้วย เมื่อท่านราชทูตจะเสด็จกลับนั้นก็ดีอยู่ มิได้ทรงกรรแสง ครั้นเวลากลางคืนก็ทรงกรรแสงท้ังสองพระองค์ ด้วยเคยทรงเล่นอยู่ที่เลเคเช่นมีคนไทยอยู่ด้วย เสด็จไปอยู่กับฝรั่งก็เป็นที่เปลี่ยวพระไทยไป...ครูผู้หญิงสอนเวลาเช้า ครูผู้ชายสอนเวลาบ่าย ...เวลาน้ันพึ่งจะเสด็จไปอยู่ใหม่ๆ ทรงกรรแสงอยู่ ข้าพระพุทธเจ้าจะทูลลา พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดชใส่กุญแจห้องเสียไม่ให้ข้าพระพุทธเจ้ามา.
ณ วัน ๗ ฯ (๑๐) ๑๐ ค่ำ ท่านราชทูตรับสั่งให่หม่อมไปรับเสด็จมาเลเคเช่น ค้างอยู่ ๑ คืน แล้วท่านราชทูตรับส่ังว่า อย่าทรงกรรแสงเลย สองวิกจะรับมาเลเคเช่นครั้ง ๑ ....วัน ๗ ฯ (๘) ๑๑ ค่ำ พระบาทของพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ โดนมุมเตียงเหลกเปนรอยขีดหน่อยหน่ึง เวลากลางคืนปวดพระบาทที่เป็นแผลนั้น ปากแผลบวม คร้ัน ๕ ทุ่ม ค่อยหายปวด แล้วก็บรรทมหลับ..."
ในการเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์นั้น. ผมทำใจอยู่เสมอว่า โอกาสที่จะเขียนผิดพลาดมีความเป็นไปได้สูง. เรื่องการศึกษาของพระบิดาแห่งกฎหมายไทยก็เช่นกัน ผมเคยกล่าวไว้ในหนังสือที่ผมเรียบเรียงว่า. ทรงสอบผ่านแล้ว Christchurch College ; Oxford University เห็นว่าทรงพระเยาว์ จึงไม่รับเข้าเรียน พระองค์ต้องสอบอีกครั้งหนึ่ง. (ข้อมูลนั้นได้มาจากการสัมภาษณ์). แต่เมื่อผมได้ค้นคว้าจากเอกสารต้นฉบับที่ส่งมาจากประเทศอังกฤษแล้ว. ผมพบความจริงว่าคลาดเคลื่อนอยู่ ผมอยากจะบันทึกเป็นข้อมูลใหม่ไว้ว่า ..." ครั้งแรกหลาย College ไม่รับเข้าสอบเพราะเห็นว่าอายุยังน้อย พระองค์ทรงเสียพระทัยมาก แต่ก็ได้พยายามติดต่อขอเข้าสอบไปทาง Christchurth อีกวิทยาลัยหนึ่ง วิทยาลัยนี้ยอมให้เข้าสอบ ผลการสอบปรากฏว่า ทรงสอบได้ แต่ยังไม่ได้เรียนทันที มีข้อขัดข้องเรื่องอายุน้อย ต้องรออีกประมาณ ๖ เดือนจึงได้ทรงเข้าเรียน."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น